ประเภทของซูชิ:
นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi) เป็นซูชิพบได้บ่อยในภัตตาคาร ซูชิจะมีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปวงรีแล้ววางเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก ฯลฯ ไว้ข้างบน อาจจะใส่วาซาบิเล็กน้อย หรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลก็ได้ ซูชิแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด
มากิซูชิ (Maki Sushi) มีวิธีทำ 3 แบบด้วยกัน
(1) ม้วนข้าวไว้ด้านในสาหร่ายทะเลอยู่ด้านนอก
(2) ม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายอยู่ด้านในส่วนข้าวอยู่ด้านนอก
(3) ห่อเป็นรูปกรวย เรียกว่า แคลิฟอร์เนียเทมากิ
ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi) เป็นการจัดปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ฯลฯ ที่หั่นเป็นชิ้นๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง
โอชิซูชิ (Oshi Sushi) หรือรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวหั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็นคำๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน
อินะริซูชิ ซูชิที่นำเนื้อมาใส่ในเต้าหู้ที่มีลักษณะเป็นถุง
ขนมหวานของญี่ปุ่น (Japanese sweets & desserts)นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi) เป็นซูชิพบได้บ่อยในภัตตาคาร ซูชิจะมีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปวงรีแล้ววางเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก ฯลฯ ไว้ข้างบน อาจจะใส่วาซาบิเล็กน้อย หรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลก็ได้ ซูชิแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด
มากิซูชิ (Maki Sushi) มีวิธีทำ 3 แบบด้วยกัน
(1) ม้วนข้าวไว้ด้านในสาหร่ายทะเลอยู่ด้านนอก
(2) ม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายอยู่ด้านในส่วนข้าวอยู่ด้านนอก
(3) ห่อเป็นรูปกรวย เรียกว่า แคลิฟอร์เนียเทมากิ
ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi) เป็นการจัดปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ฯลฯ ที่หั่นเป็นชิ้นๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง
โอชิซูชิ (Oshi Sushi) หรือรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวหั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็นคำๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน
อินะริซูชิ ซูชิที่นำเนื้อมาใส่ในเต้าหู้ที่มีลักษณะเป็นถุง
รวมเรียกขนมหวานของญี่ปุ่นว่า "วากาชิ" (Wagashi - 和菓子) ซึ่งมีมานานตั้งแต่สมัยนะระหรือประมาณ 1,300 ปีมาแล้ว แต่เฟื่องฟูสุดๆในช่วงเอโดะ (ปี ค.ศ. 1603-1867) โดยเฉพาะในเมืองเกียวโตและโตเกียว แต่ละร้านแข่งกันขายแข่งกันคิดขนมใหม่ๆจนกลายเป็นต้นตำรับของขนมญี่ปุ่นถึงจะได้ชื่อว่าเป็นขนมหวานประจำชาติ แต่ชาวญี่ปุ่นก็ไม่ได้กินวากาชิกันบ่อยๆ ซึ่งวากาชินี้จะกินเป็นของว่างและในโอกาสพิเศษเมื่อมีพิธีการต่างๆเช่น พิธีแต่งงาน หรือพิธีชงชาและแรงบันดาลใจของพ่อครัวแม่ครัวในการสร้างสรรค์ขนมวากาชินั้นก็ได้มาจาธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล เช่น ฤดูใบไม้ร่วงจะทำขนมคิคุโกะโระโมะรูปดอกเบญจมาศ ส่วนฤดูหนาวก็ทำยูคิโมจิ หรือโมจิหิมะ เป็นต้นมาถึงการแบ่งประเภทของวากาชิกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้แบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจนเพราะขนมแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โจ นะมะกะชิ (Jyo-Namagashi, Jonamagashi)

ฮิงะชิ (Higashi - Dried Sweets)

A glutinous rice flour, sugar and starch mixture or wasambonto is pressed in molds to form dry sweets
เซมเบ้ (Sembei)

โมะนะกะ (Monaka)

Monaka refers to sweets made of adzuki bean filling sandwiched between two thin crisp wafers made from sticky-rice. Wafers are shaped in cherry blossoms, chrysanthemum and so on.
โยคัง (Yokan)

Yokan is a thick jellied sweet made of adzuki bean paste, kanten, and sugar. One of the most popular among Japanese sweets, evolved during the Edo period (1603 - 1867) as sugar became more available. It can be kept longer and is a recommended gift item.
มันจู (Manjyu, manju)

เป็นขนมกลมๆแป้งด้านนอกที่ห่อทำจากแป้งมันเทศ (บางครั้งใช้แป้งโซบะ) ไส้เป็นถั่วบดและมีมันเทศหรือเกาลัดอยู่ตรงกลางไส้อีกที นำไปนึ่ง อบหรือย่าง จึงได้ขนมอร่อยโดยเฉพาะขนมโมมิจิมันจูที่เมืองมิยาจิมาโดดเด่นที่ห่อด้วยใบเมเปิล มีหลายไ ส้ทั้งถั่วแดงบด คัสตาร์ด ช็อคโกแลต ถือเป็นขนมชื่อดังที่ไม่ว่าใครไปเยือนก็ต้องลองชิม
Steamed bun like sweets. A dough made from joyo (Japanese yams) or flour that is steamed, made into a bun and filled with bean paste.
ดังโกะ (Dango)

ไดฟุกุ (Daifuku)

ไทยะกิ (Tai Yaki)


They are similar to imagawayaki (今川焼き?), which are thick round cakes also filled with sweet azuki bean paste or custard.
credit:
http://www.imageholiday.com
http://www.siamzone.com
http://www.kk-design.com
http://www.tastydays.com