Wednesday, January 26, 2011

Bankara Ramen - "บังคาร่า ราเม็ง" ร้านราเมง สไตล์ญี่ปุ่นแท้

สถานที่ตั้ง: 32/1 ซอย สุขุมวิท 39 ภายในอาคารเดอะแมนเนอร์ สุขุมวิท คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110
Japanese resturant : Bankara Ramen -
เบอร์โทรศัพท์: 0-2662-5162-3

การเดินทาง:
ใช้ ถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางสุขุมวิท 39 เลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ 400 เมตร จะเห็นอาคารเดอะแมนเนอร์อยู่ทางด้านขวามือ ร้านอาหารญี่ปุ่น บันคาระราเมน อยู่ภายในอาคารแมนเนอร์ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน หากนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส ให้ลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วลงฝั่งซอยสุขุมวิท 39

สถานที่จอดรถ: ที่จอดรถของอาคารเดอะแมนเนอร์

......................................................................................................................................................

"บังคาร่า ราเม็ง"น้ำซุปเด่น เส้นเหนียวนุ่ม ราเม็งสไตล์ญี่ปุ่นแท้

"อิ รัด ไช มา เสะ" เสียงบริกรหนุ่มสาว กล่าวคำทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ยินดีต้อนรับ ดังลั่นร้าน เมื่อ "ผู้จัดการตระเวนกิน" เดินเยื้องกายเข้ามาภายในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ที่มีนามว่า "บังคาร่า ราเม็ง" (Bankara Ramen) เป็นร้านราเม็งน้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในเมืองไทยได้ไม่ถึงเดือน แต่นับว่ามีความน่าสนใจเชิญชวนให้มากินเป็นอย่างมาก

Japanese resturant : Bankara Ramen - บังคาร่า ราเมง ร้านนี้นำเสนอราเม็งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เพราะเป็นเฟรนไชส์ของร้านบังคาร่า ราเม็งชื่อดังจากญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นอยู่ที่เส้นราเม็ง และน้ำซุปอันเลิศรส เมื่อมาอยู่ในเมืองไทยก็ยังคงรสชาติราเม็งแบบต้นตำรับแท้ๆ จากญี่ปุ่นไว้ โดยไม่ได้มีการปรับแต่งรสชาติแต่อย่างใดเลย พวกวัตถุดิบแทบจะทุกอย่างในการทำราเม็ง ของที่นี่ส่งตรงมาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุป เส้นราเม็ง และวัตถุดิบปรุงรสอื่นๆ แถมยังมีพ่อครัวญี่ปุ่น มาลงฝีมือปรุงราเม็งรสเลิศให้กินกันด้วย

ร้านราเม็งรสชาติต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ ที่น่าจะทำให้คุณเข้าใจว่าความเอร็ดอร่อย แบบเดียวกับที่เคยเห็นกันในรายการทีวีแชมเปี้ยนเลยทีเดียว จุดเริ่มต้นของ Bankara Ramen เกิดจากเจ้าของสองหนุ่มผู้บริหารชาวไทย ซึ่งไปติดใจในรสชาติราเม็งของร้าน Bankara Ramen ร้านดังในย่านอิเคะบุคุโระ กรุงโตเกียว และเป็นที่นิยมมากจนมีกว่า 30 สาขาในญี่ปุ่น ด้วยรสชาติที่เข้มข้นถึงเครื่องจึงน่าจะโดนใจลูกค้าชาวไทยเช่นกัน Bankara Ramen จึงได้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อ 2 ปีก่อน ด้วยมาตรฐานของ Chain บังคะระที่การันตีได้เป็นอย่างดีว่าคุณจะได้กินราเม็งรสชาติเดียวกับที่ญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

บรรยากาศของร้าน Bankara Ramen ตกแต่งไว้ในสไตล์ญี่ปุ่นคลาสสิค ด้วยโทนสีดำ แดง พร้อมฉากกั้นไม้สีน้ำตาลไหม้ที่แบ่งสัดส่วนระหว่างโต๊ะแต่ละตัวเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าที่เข้ามาทานราเม็ง พนักงานแต่ละคนต้อนรับเราอย่างแข็งขันด้วยคำทักทายภาษาญี่ปุ่นพร้อมรอยยิ้ม ยิ่งทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเรียกร้องหาราเม็งรสเลิศของที่นี่ บนโต๊ะทุกโต๊ะภายในร้านจะมีเครื่องเคียงและเครื่องปรุงต่างๆ ตั้งอยู่ มีทั้งพริกไทย น้ำส้มสายชู โชยุ น้ำมันพริกเผาหรือรายู และงาขาว ส่วนเครื่องเคียงแก้เลี่ยน มีทั้งขิงดอง และที่พิเศษสุดแตกต่างจากร้านอื่นเห็นจะเป็นกระเทียมสด ซึ่งจะมีที่บดให้บริการประจำไว้ทุกโต๊ะ เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับราเม็งได้ตามใจชอบ แต่ที่บดกระเทียมอาจต้องใช้ข้อมือที่แข็งแรงกันนิดนึงนะคะ

ความโดดเด่นของราเม็งของ Bankara Ramen อยู่ที่น้ำซุปกระดูกหมูซึ่งเขาจะเคี่ยวกันไว้แบบข้ามคืนเลยทีเดียว เพราะต้องใช้เวลาในการเคี่ยวน้ำซุปถึง 8-15 ชั่วโมง เพื่อให้ได้น้ำซุปรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม ก่อนที่จะนำมาปรุงรสด้วยเครื่องปรุงและน้ำซุปอื่นๆ ด้วยสูตรพิเศษเฉพาะของราเม็งแต่ละรูปแบบ ราเม็งแนะนำแบบแรก คือ Kakuni Bankara (230 บาท) จานเด็ดที่ใช้ชื่อเดียวกับชื่อร้าน เป็นราเม็งซุปกระดูกหมูน้ำข้น โปะหน้ามาด้วยหมูสามชั้นตุ๋นชิ้นโต รสหวานนุ่ม แทบจะละลายในปาก หมูตุ๋นที่นี่ต้องนำไปเข้าอบในหม้อแรงดันเพื่อคัดแยกเอามันหมูออกก่อนหนึ่งรอบ แล้วจึงเอามาตุ๋นกับเครื่องปรุงสูตรลับสูตรเดียวกับที่ญี่ปุ่นเป๊ะๆ จึงไม่น่าแปลกใจในความนุ่มและรสชาติที่แทรกซึมเข้าสู่ทุกอณูของเนื้อหมู แต่หากสาวไทยคนไหนกลัวอ้วนก็สามารถบอกกับพนักงานได้ว่าขอชิ้นที่มันน้อยหน่อยก็ได้
Japanese resturant : Bankara Ramen - สำหรับราเม็งที่ชวนกินของที่นี่มีราเม็งหลักๆ อยู่ 4 แบบให้เลือกกินกันตามใจชอบ มีดังนี้

บังคาร่า ราเม็ง (160 บาท) เป็น ราเม็งต้นตำรับจากสูตรของเจ้าของร้านบังคาร่าฯที่ญี่ปุ่น ที่มีความโดดเด่นอยู่ตรงที่น้ำซุปเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่ผ่านการเคี่ยวกรำ นานกว่า 15 ชม. จนได้น้ำซุปกระดูกหมูที่เข้มข้น และผสมกับซอสโชยุญี่ปุ่นสูตรพิเศษ ส่วนเส้นราเม็งเป็นเส้นหยักขนาดกลาง พร้อมกับใส่เครื่องมีชาชูคือหมูสไลด์ หน่อไม้ญี่ปุ่น สาหร่ายและโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ลิ้มรสราเม็งคีบเส้นส่งเข้าปากเส้นราเม็งเคี้ยวนิ่มเหนียวนุ่มปาก เข้ากับน้ำซุปที่ซดแล้วรสชาติเข้มข้น ออกเค็มนิดๆ และมีกลิ่นของโชยุ หน่อยๆ ส่วนเนื้อหมูรสดีเคี้ยวนุ่ม หน่อไม้ญี่ปุ่นมีรสชาติเคี้ยวกรึบกรับปากดี

ชามต่อมาเป็น ทงคัตสึ ราเม็ง (170 บาท) ที่ส่งกลิ่นหอมๆ ของน้ำซุปกระดูกหมูยั่วน้ำลาย น้ำซุปกระดูกหมูนั้นผ่านการเคี่ยวกรำนานหลายชั่วโมงจนกระดูกหมูนั้นละลายได้ น้ำซุปเป็นสีขาวๆ เหมือนน้ำนมที่มีความเข้มข้นมากๆ ส่วนเส้นเป็นราเม็งเส้นเล็กยาวตรง และก็ใส่เครื่องอย่างเห็ดหูหนู ชาชู และต้นหอมซอย กินแล้วต้องบอกว่าถูกปากเอามากๆ ตรงที่ได้ซดน้ำซุปกระดูกหมูที่หอมหวานกลมกล่อมลิ้น บวกกับได้เคี้ยวเส้นราเม็งเล็กๆ ที่เหนียวนุ่มนิ่ม เข้ากันดีกับเครื่องที่ใส่มา
Japanese resturant : Bankara Ramen - กินราเม็งแบบมีน้ำซุปร้อนๆ ใส่มาไปแล้วถึง 2 ชาม ชามต่อมาขอแนะนำ ซึเคเมน ราเม็ง(190 บาท) ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่น้ำซุปกับเส้นนั้นมาแยกกัน ทางร้านใช้เส้นราเม็งขนาดใหญ่นำมาต้มจนสุกแล้วนำไปแช่เย็น ออกมาเหมือนบะหมี่เย็น เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปสูตรเด็ดที่มีส่วนผสมของน้ำซุปถึง 2 อย่างคือ ซุปกระดูกหมูและน้ำซุปทะเลที่ได้จากปลาต่างๆเคี่ยวจนเป็นน้ำซุปที่ เข้มข้น แล้วใส่เครื่องมีชาชู หน่อไม้ญี่ปุ่น และหอมซอย ตามด้วยใส่น้ำมันพริกเผาของญี่ปุ่นคล้ายๆ กับน้ำพริกเผาบ้านเรา เวลากินต้องคีบเส้นราเม็งมาจุ่มในน้ำซุป แล้วก็ส่งเส้นเข้าปากเคี้ยวเส้นรา เม็งเต็มปากเค็มปากเหนียวนุ่มเด้งๆ อยู่ในปาก และได้รสชาติน้ำซุปออกมัน เค็ม เจือหวานและเผ็ดนิดหน่อยจากน้ำมันพริกเผา

ราเม็งชามสุดท้าย มิโซะบูตะ ราเม็ง (230 บาท) เป็นราเม็งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความกลมกล่อมของน้ำซุปที่ได้จากน้ำซุปกระดูกหมู บวกกับใส่มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) และซอสสูตรพิเศษปรุงรสลงไปจนได้น้ำซุปที่เข้มข้นหอมกลิ่นเต้าเจี้ยว ส่วนเส้นเป็นเส้นราเม็งขนาดใหญ่สำหรับมิโซะโดยเฉพาะ พร้อมกับยังใส่เครื่องหลายอย่าง มีถั่วงอกผัด บูตะเป็นหมูสไลด์เป็นแผ่นและผัดกับซอสพิเศษ โรยหน้าด้วยต้นหอม คีบเส้นราเม็งเข้าปากเคี้ยวนุ่ม ซดน้ำซุปร้อนๆ ตามไปออกรสซอสมิโซะที่เค็มๆ หวานๆ แล้วก็เคี้ยวหมูบูตะนุ่มๆ ที่มีรสชาติกลมกล่อมถูกปากเอามากๆ

Japanese resturant : Bankara Ramen - และ การกินราเม็งของที่นี่ทางร้านยังมีท็อปปิ้งอีกกว่า 7 อย่าง ให้สามารถสั่งใส่เพิ่มมาในราเม็งแต่ละอย่าง ทำให้การกินราเม็งเพิ่มรสชาติความอร่อยไปอีกแบบ มี ทามาโกะ (25 บาท) เป็นไข่ต้มยางมะตูม คาคูนิ (40 บาท) เป็นหมูสามชั้นตุ๋น ชาชู (30 บาท) คือหมูแผ่นหมักซอสหั่นเป็นแผ่นๆ คาราเนงิ (20 บาท) เป็นต้นหอมคลุกกับพริกเผาญี่ปุ่น โนริ (25 บาท) คือสาหร่ายแผ่น เนยแข็ง (10 บาท) และข้าวโพดต้ม (10 บาท)

นอกจากราเม็งที่เป็นเมนูเด่นชูโรงแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนูกินเล่นอื่นๆ ที่ชวนสั่งมาลิ้มลองอีกมาก อาทิ คาคูนิด้ง (90 บาท) เป็นข้าวญี่ปุ่นใส่คาคูนิ ไข่ต้มยางมะตูมราดด้วยมายองเนส โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและสาหร่ายซอย เกี๊ยวซ่า (60 บาท) ที่แป้งเกี๊ยวบางนุ่ม ไส้เกี๊ยวเป็นหมูรสกลมกล่อม เนงิบูตะเมชิ (60 บาท) เป็นหมูชาชูนำมาสับปรุงรสชาติ ซึมามิชาชู (70 บาท) เป็นหมูชาชูผัดกับน้ำซุปสูตรพิเศษ เสิร์ฟพร้อมซอสญี่ปุ่น และมีของหวานอย่าง แอนนินโดฟุ (40 บาท) เป็นเต้าฮวยเย็นญี่ปุ่นที่ชวนกิน "ผู้จัดการตระเวนกิน" ขอแนะนำว่าร้าน "บังคาร่า ราเม็ง" เป็นอีกหนึ่งร้านราเม็งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ชวนให้มาลองลิ้มรสชาติกันไม่น้อยเลย

รายละเอียดเพิ่มเติม:
http://www.tutoronline.co.th/lifestyle/newsLife.php?id=421
http://www.j-doramanga.com/lesson_detail.php?id=1102
http://th.openrice.com/bangkok/restaurant/article/detail.htm?article_id=30
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...