Kaiseki cuisine
"Kaiseki (懐石) or kaiseki ryōri (懐石料理)" is a traditional multi-course Japanese dinner. The term also refers to the collection of skills and techniques that allow the preparation of such meals, and are analogous to Western haute cuisine.
There are basically two kinds of traditional Japanese meal styles called kaiseki or kaiseki ryōri. The first, where kaiseki is written as 会席 (and kaiseki ryōri, 会席料理), referring to the fancy meal served at banquets. The other is written 懐石 or 懐石料理, referring to the simple meal that the host of a chanoyu gathering serves to the guests, and which is also known as cha-kaiseki (茶懐石).
ราเมง หรือ ราเม็ง (ラーメン หรือ らーめん) เป็นบะหมี่น้ำของญี่ปุ่น ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ราเม็งมักจะทานคู่กับ เนื้อหมู สาหร่าย คะมะโบะโกะ ต้นหอม และบางครั้งจะมีข้าวโพด ราเม็งมีการปรุงรสแตกต่างกันตามแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น เช่นในเกาะคีวชู ต้นกำเนิดของทงโคสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู) หรือในเกาะฮกไกโด ต้นกำเนิดของมิโซะราเม็ง (ราเม็งเต้าเจี้ยว)"Kaiseki (懐石) or kaiseki ryōri (懐石料理)" is a traditional multi-course Japanese dinner. The term also refers to the collection of skills and techniques that allow the preparation of such meals, and are analogous to Western haute cuisine.
There are basically two kinds of traditional Japanese meal styles called kaiseki or kaiseki ryōri. The first, where kaiseki is written as 会席 (and kaiseki ryōri, 会席料理), referring to the fancy meal served at banquets. The other is written 懐石 or 懐石料理, referring to the simple meal that the host of a chanoyu gathering serves to the guests, and which is also known as cha-kaiseki (茶懐石).
ในประเทศตะวันตก คำว่า "ราเม็ง" รู้จักในความหมายถึง บะหมี่สำเร็จรูป (Instant Noodles)
"ราเมง" เป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าฝั่งตะวันตกยกให้แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารจานด่วน ที่ญี่ปุ่นก็ต้องยกให้ราเมงเป็นอาหารจานด่วน ที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าแฮมเบอร์เกอร์ ที่ญี่ปุ่นจึงมาร้านราเมง พุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด พอๆกับร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านเราเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละแห่งก็มักจะมีสูตรน้ำซุป ที่เป็นสุดยอดเคล็ดลับของแต่ละร้าน

เพราะฉะนั้นอย่างที่ได้กล่าวข้างต้นไปแล้วว่าน้ำซุปของแต่ละร้าน จะมีรสชาดแตกต่างกัน มีทั้งน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกไก่ , กระดูกหมู, ปลาซาดีน หรือ (niboshi) นอกจากนั้นยังมี น้ำซุปที่ปรุปจากสาหร่ายนานาชนิด น้ำซุปจากผักต่างๆ เช่น หัวผักกาด ขิง กระเทียม ต้นหอม และเห็ด
สามารถจำแนกราเมง ได้ 4 แบบด้วยกัน คือ
shio ramen น้ำซุปที่เกลือเป็นส่วนผสม
shoyu ramen น้ำซุปที่ใช้ซอสถั่วเหลืองเป็นส่วนผสม สีออกน้ำตาล หรือใส
tonkotsu ramen น้ำซุปที่ทำจาก กระดูกหมู ซุปจะมีสีขาวเหมือนน้ำนม
miso ramen น้ำซุปที่เคี่ยวจากเต้าเจี๊ยว ซุปนั้นจะได้น้ำซุปสีออกน้ำตาลมีกลิ่นหอมของเต้าเจี๊ยว บางแห่งน้ำซุปจะใส
โดยทั่วไปราเมงก็จะมี negi (ต้นหอม), shinachiku (หน่อไม้), nori (สาหร่าย), yakibuta (หมูแฮมหมัก), ไข่ต้ม เป็นต้น แต่ราเมงในเมนูตามร้านราเมงนั้นมักจะตั้งชื่อตามหน้าราเมง หรือตั้งตามท๊อปปิ้งที่ใส่ไว้บนราเมง เช่น
Chashumen: เป็นรางเมงที่จะมีเนื้อหมูที่ผ่านการหมักและย่างมาแล้ว มีรสชาติดีและมีกลิ่นหอม หั่นเป็นแผ่นบาง ๆ
Tanmen: ราเมงสารพัดผักไม่ว่าจะเป็น ต้นหอม หน่อไม้ สาหร่าย
Wonton ramen: ราเมงที่มีหน้าเป็นเกี๊ยวไส้ต่าง ๆ
Champonmen : ราเม็งหน้ารวม
Hiyashichuka : ราเม็งเย็น
Tonkatsu ramen : ราเม็งหน้าหมูทอด
Tongarashimiso ramen : ราเม็งต้มยำพริกญี่ปุ่น