Wednesday, November 25, 2009

ราเมง

อาหารญี่ปุ่น (日本料理, Japanese Food) ประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะ ชาวญี่ปุ่นจึงรับประทานแต่อาหารทะเล ต่อมาจึงรับวัฒนธรรมการรับประทานเนื้อสัตว์เข้ามา และเป็นที่นิยมมากขึ้น การรับประทานเน้นตามฤดูกาล คุณภาพของวัตถุดิบ

การจัดสำรับอาหารญี่ปุ่น ประกอบด้วย อาหารจานหลักเป็น ข้าว หรืออาหารเส้น ซุป และกับข้าว ซึ่งทำจาก ปลา เนื้อสัตว์ ผัก และเต้าหู้ ปรุงรสด้วย ดาชิ (หัวเชื้อน้ำซุป) มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) และโชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) ทำให้อาหารญี่ปุ่นมีไขมันต่ำ กับข้าวจะปรุง ทั้งดิบ (ซาชิมิ) ตุ๋น ต้ม ย่าง นึ่ง ทอด ดอง ยำ
ราเมง หรือ ราเม็ง (ラーメン หรือ らーめん) เป็นบะหมี่น้ำของญี่ปุ่น ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ราเม็งมักจะทานคู่กับ เนื้อหมู สาหร่าย คะมะโบะโกะ ต้นหอม และบางครั้งจะมีข้าวโพด ราเม็งมีการปรุงรสแตกต่างกันตามแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น เช่นในเกาะคีวชู ต้นกำเนิดของทงโคสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู) หรือในเกาะฮกไกโด ต้นกำเนิดของมิโซะราเม็ง (ราเม็งเต้าเจี้ยว)

ในประเทศตะวันตก คำว่า "ราเม็ง" รู้จักในความหมายถึง บะหมี่สำเร็จรูป (Instant Noodles)

"ราเมง" เป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าฝั่งตะวันตกยกให้แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารจานด่วน ที่ญี่ปุ่นก็ต้องยกให้ราเมงเป็นอาหารจานด่วน ที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าแฮมเบอร์เกอร์ ที่ญี่ปุ่นจึงมาร้านราเมง พุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด พอๆกับร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านเราเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละแห่งก็มักจะมีสูตรน้ำซุป ที่เป็นสุดยอดเคล็ดลับของแต่ละร้าน

การจะทำราเมงให้อร่อยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เวลาเคี่ยวน้ำซุปจากกระดูก เป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือบางแห่งอาจนานถึง 8 ชม. เลยทีเดียว เพราะรสชายหลักของราเมงนั้นจะแตกต่างกันก็ตรงน้ำซุปนี่แหละ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าน้ำซุปของราเมงนั้นจะอร่อย หวาน กลมกล่อมแค่ไหน และทำไมนั่งกินราเมง แล้วถึงไม่มีเครื่องปรุงเหมือนไปนั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวเหมือนบ้านเรา ที่ต้องใส่พริงหนึ่งช้อน น้ำส้มสายชูสองช้อน น้ำตาลครึ่งช้อน เรียกได้ว่าถ้ากินราเมงก็ไม่ต้องปรุงเพิ่มแต่อย่างใด หากเผลอไปปรุงเข้าอาจจะโดนเจ้าของร้านค้อนให้ได้

เพราะฉะนั้นอย่างที่ได้กล่าวข้างต้นไปแล้วว่าน้ำซุปของแต่ละร้าน จะมีรสชาดแตกต่างกัน มีทั้งน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกไก่ , กระดูกหมู, ปลาซาดีน หรือ (niboshi) นอกจากนั้นยังมี น้ำซุปที่ปรุปจากสาหร่ายนานาชนิด น้ำซุปจากผักต่างๆ เช่น หัวผักกาด ขิง กระเทียม ต้นหอม และเห็ด

สามารถจำแนกราเมง ได้ 4 แบบด้วยกัน คือ

shio ramen น้ำซุปที่เกลือเป็นส่วนผสม

shoyu ramen น้ำซุปที่ใช้ซอสถั่วเหลืองเป็นส่วนผสม สีออกน้ำตาล หรือใส

tonkotsu ramen น้ำซุปที่ทำจาก กระดูกหมู ซุปจะมีสีขาวเหมือนน้ำนม

miso ramen น้ำซุปที่เคี่ยวจากเต้าเจี๊ยว ซุปนั้นจะได้น้ำซุปสีออกน้ำตาลมีกลิ่นหอมของเต้าเจี๊ยว บางแห่งน้ำซุปจะใส

โดยทั่วไปราเมงก็จะมี negi (ต้นหอม), shinachiku (หน่อไม้), nori (สาหร่าย), yakibuta (หมูแฮมหมัก), ไข่ต้ม เป็นต้น แต่ราเมงในเมนูตามร้านราเมงนั้นมักจะตั้งชื่อตามหน้าราเมง หรือตั้งตามท๊อปปิ้งที่ใส่ไว้บนราเมง เช่น

Chashumen: เป็นรางเมงที่จะมีเนื้อหมูที่ผ่านการหมักและย่างมาแล้ว มีรสชาติดีและมีกลิ่นหอม หั่นเป็นแผ่นบาง ๆ

Tanmen: ราเมงสารพัดผักไม่ว่าจะเป็น ต้นหอม หน่อไม้ สาหร่าย

Wonton ramen: ราเมงที่มีหน้าเป็นเกี๊ยวไส้ต่าง ๆ

Champonmen : ราเม็งหน้ารวม

Hiyashichuka : ราเม็งเย็น

Tonkatsu ramen : ราเม็งหน้าหมูทอด

Tongarashimiso ramen : ราเม็งต้มยำพริกญี่ปุ่น
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...