ซูชิ มีวิวัฒนาการมาก่อน เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว เกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น เขานำปลาดิบที่ล้างจนสะอาดแล้ว มาหมักกับเกลือและส่วนผสมต่างๆ และรอจนได้ที่ จากนั้นก็นำปลาดิบที่หมักเสร็จแล้ว มารับประทานพร้อมกับข้าว
นี่เองที่ทำให้หลายๆคนเข้าใจไปว่า ซูชิ คือปลาดิบ ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดครับ อันที่จริง ซาซิมิ (Sashimi) ต่างหากที่คือปลาดิบ และ ซูชิ (Sushi) หมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว
แล้วรู้ไหมว่า มีผู้ที่คิดค้นสูตรการทำซูชิขึ้นใหม่ ซึ่งคล้ายคลึงกับซูชิที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ก็คือ พ่อครัวหัวใสชื่อ คุณโยเฮอิ (Yohei) เขาคิดขึ้นมาตอนประมาณศตวรรษที่ 18 เลยทำให้เราได้กินของอร่อยๆอีกแบบ... ถึงจะดิบแต่สะอาดถูกหลักอนามัย... ต้องขอบคุณจริงๆ
ซูชิในอดีต มี 2 รูปแบบ คือ
1. รูปแบบคันไซ (Kansai Style) มาจากจังหวัดโอซาก้า (Osaka) ที่เป็นเมืองสำคัญทางการค้ามาเนิ่นนานแล้ว และมีชื่อเสียงด้านการค้าข้าวด้วย และปัจจุบันเรารู้จักซูชิแบบนี้กันในชื่อ "โอชิซูชิ"
2. รูปแบบเอโดะ (Edo Style) มาจากโตเกียว ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเอโดะอันรุ่งเรืองในอดีต และเป็นที่มาของ "นิงิริซูชิ" ที่แพร่หลายไปทั่วโลกเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด
ไหนๆก็รู้ที่มากันแล้ว มารู้จักซูชิในปัจจุบันกันต่อเลย
นับตั้งแต่คุณโยเฮอิคิดซูชิรูปแบบใหม่ขึ้นมาได้ ซูชิก็เลยเป็นที่นิยมไปทั่ว ไม่ใช่เฉพาะคนญี่ปุ่นเท่านั้นที่รับประทานกัน ตอนนี้มันกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก สำหรับในเมืองไทยก็มีแน่นอน ไม่ใช่แค่ในร้านใหญ่ๆเท่านั้น ตามศูนย์อาหารหรือในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งก็มีด้วย ก็เพราะความอร่อย กินง่ายเพราะส่วนใหญ่เขาทำเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วก็เหมาะกับทุกฤดูกาลนั่นแหละ ไม่ว่าอากาศจะเป็นยังไง ซูชิก็ยังดีต่อสุขภาพอยู่นั่นเอง
ซูชิมีหลายชนิด ที่เราคุ้นเคยเห็นหน้าค่าตากันอยู่บ่อยๆ มี 4 แบบ
1. แบบแรก "นิงิริซูชิ" (Nigiri Sushi) คือ ข้าวเป็นก้อนรูปวงรีแล้ววางเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก ฯลฯ ไว้ข้างบน อาจจะเสริมรสหรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลก็ได้ ซูชิแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดเลย แล้วถ้าพูดถึงซูชิทั่วๆไปก็จะหมายถึง นิงิริซูชินี่แหละ
2. ซูชิอีกแบบที่คุ้นมาก ก็คือ "มากิซูชิ" (Maki Sushi) มีวิธีทำตั้ง 3 อย่างแหนะ อย่างแรกก็ม้วนข้าวไว้ด้านใน อย่างที่สองก็ม้วนกลับด้านเอาข้าวไว้ข้างนอก และอย่างที่สามห่อเป็นรูปกรวย ดูแล้วสนุกดีจัง แล้วผมก็สรุปเอาเองเรียกว่าข้าวห่อสาหร่าย...
3. ส่วนแบบที่ทำง่ายที่สุด คือ "ชิราฌิซูชิ" (Chirashi Sushi) ก็แค่เอาพวกเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ฯลฯ ที่หั่นเป็นชิ้นๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่องเท่านั้น
4. แบบสุดท้าย "โอชิซูชิ"(Oshi Sushi) หรือรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า ซูชิแบบนี้ ก็เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาว หั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็นคำๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบนinfo credit: http://www.jatschool.com/newsite/highlight/display.php?id=183
